
วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 สหรัฐอเมริกาได้พบกับปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง นั่นคือการชุมนุมของผู้หญิงกว่าล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งถูกขนานนามว่า “Women’s March” เป็นการประท้วงอย่างสงบเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อนโยบายและคำพูดเชิงเหยียดเพศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เมื่อทรัมป์เอาชนะคู่แข่งฮิลลารี คลินตัน ผู้หญิงที่เป็นผู้สมัครคนแรกของพรรคเดโมแครตในการลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี
ตลอดช่วงรุกหาเสียง ทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากคำพูดเชิงเหยียดเพศและการดูหมิ่นต่อสตรี เขาเคยกล่าวถึงผู้หญิงในลักษณะที่ไม่เหมาะสมและดูถูกความสามารถของพวกเธอ
หลังจากชนะเลือกตั้ง ผู้คนจำนวนมากเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้หญิง ความกังวลนี้ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อทรัมป์แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด และไม่มีผู้หญิงคนใดอยู่ในตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล
เหตุการณ์ Women’s March จึงเกิดขึ้นเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อทัศนคติและนโยบายของทรัมป์
ผู้ประท้วงส่วนใหญ่สวมหมวกสีชมพู ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวนี้ สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ Women’s March
-
คำพูดเชิงเหยียดเพศ: การรณรงค์หาเสียงของทรัมป์เต็มไปด้วยคำพูดที่ดูถูกและเหยียดหยามผู้หญิง ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ปลอดภัย
-
นโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิสตรี: มีความกังวลว่านโยบายของทรัมป์จะทำให้สิทธิสตรีในการทำแท้ง การควบคุมกำเนิด และการได้รับการดูแลด้านสุขภาพถูกลดทอนลง
-
ขาดการเป็นตัวแทน: รัฐบาลทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่มีผู้หญิงคนใดในตำแหน่งสำคัญ
ผลกระทบของ Women’s March Women’s March เป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา และมีผลกระทบอย่างมากต่อสังคมอเมริกัน
-
เพิ่มการรับรู้: การชุมนุมทำให้ประเด็นเรื่องความเท่าเทียมของเพศได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก
-
กระตุ้นการเคลื่อนไหว: Women’s March ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงและชายจำนวนมากเข้าร่วมในการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี
-
ส่งเสริมความสามัคคี: การชุมนุมแสดงให้เห็นถึงพลังของความสามัคคีและความ團結ของผู้คนทั่วประเทศ
ตัวอย่างเหตุการณ์ Women’s March ที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา
สถานที่ | จำนวนผู้ประท้วง | เหตุการณ์สำคัญ |
---|---|---|
วอชิงตัน ดี.ซี. | กว่า 500,000 คน | การกล่าวปราศัยจากนักเคลื่อนไหวและผู้นำด้านสิทธิมนุษยชน |
ลอสแอนเจลิส | กว่า 750,000 คน | การแสดงดนตรีและการทำกิจกรรมร่วมกัน |
Women’s March เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
มันแสดงให้เห็นถึงพลังของผู้คนที่จะต่อต้านความไม่ยุติธรรมและต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการใช้สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบเพื่อเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง
Jane Fonda และการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
Jane Fonda เป็นนักแสดง, ผู้กำกับและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอเมริกัน
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เธอยังคงเป็นผู้สนับสนุนสำคัญของกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
ในปี 2019 Jane Fonda ประกาศ “Fire Drill Fridays” ซึ่งเป็นการประท้วงทุกวันศุกร์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการจริงจังในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง
Fonda และผู้ร่วมประท้วงอื่นๆ ได้ถูกจับกุมหลายครั้งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่ Jane Fonda ยังคงยืนกรานในความเชื่อของเธอว่าการกระทำเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความตระหนักและบังคับให้ผู้นำทางการเมืองเข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง
Jane Fonda: “Fire Drill Fridays” และ “The Fight Against Climate Change”
“Fire Drill Fridays”: การต่อสู้ครั้งสำคัญของ Jane Fonda Jane Fonda ก่อตั้ง “Fire Drill Fridays” ในเดือนตุลาคม 2019 เป็นการประท้วงอย่างไม่รุนแรงที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์หน้าอาคารรัฐสภา
การประท้วงนี้มุ่งเน้นไปที่การเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการจริงจังในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่ Jane Fonda เริ่ม “Fire Drill Fridays”:
-
ความเร่งด่วนของวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง: Jane Fonda เชื่อว่าวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่
-
ความล้มเหลวในการดำเนินการ: เธอวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐที่ไม่ทำอะไรมากไปกว่าการพูดคุยและการให้คำมั่นสัญญาเท่านั้น
-
ความจำเป็นต้องใช้การกระทำ: Jane Fonda เชื่อว่าการประท้วงอย่างสงบเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบังคับให้ผู้นำทางการเมืองเข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง
ผลกระทบของ “Fire Drill Fridays”:
-
การสร้างความตระหนัก: “Fire Drill Fridays” ได้ช่วยเพิ่มความสนใจในเรื่องวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง
-
การรวมกลุ่มผู้คน: การประท้วงนี้ได้ดึงดูดผู้สนับสนุนจากทั่วสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
-
ความกดดันทางการเมือง: “Fire Drill Fridays” ได้ทำให้เกิดความกดดันต่อรัฐบาลสหรัฐในการดำเนินการจริงจังในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์ जलเปลี่ยนแปลง
ข้อสรุป: Jane Fonda เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นและความกล้าหาญในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่เธอเชื่อ
“Fire Drill Fridays” ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของการประท้วงอย่างสงบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง