การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส 2017: การปะทะ titans ของความคิด

ในปี 2017 ฝรั่งเศสได้พบกับจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญ โดยมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ผู้สมัครที่เป็นผู้ contenders ต่างก็มีความโดดเด่นและนำเสนอวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้เกิดการปะทะกันของความคิดเห็นอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อการเมืองฝรั่งเศสไปไกล

ครั้งนี้ ผู้สมัครสองคนที่จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคือ Emmanuel Macron จากพรรค En Marche! (ซึ่งแปลว่า “On the Move!”) และ Marine Le Pen ผู้นำของพรรค National Rally (เดิมชื่อ National Front) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัด

Macron ซึ่งเป็นอดีตbanker และรัฐมนตรีเศรษฐกิจภายใต้ประธานาธิบดี François Hollande, นำเสนอแนวคิด “liberalism” ที่เน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเปิดกว้างต่อโลก และการรวมตัวของยุโรป

ในทางตรงกันข้าม Le Pen ซึ่งเป็นหลานสาวของ Jean-Marie Le Pen ผู้ก่อตั้งพรรค National Front เสนอแนวคิด “nationalism” ที่มุ่งเน้นการควบคุมการย้ายถิ่นฐาน การแยกตัวจากสหภาพยุโรป และการปกป้อง “French identity”

การหาเสียงของทั้งสองฝ่ายก็ดุเดือดไม่แพ้กัน Le Pen พยายามดึงดูดผู้ที่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้งจากกระแสโลกาภิวัฒน์และเศรษฐกิจเสรี โดยโจมตี Macron ว่าเป็นตัวแทนของ “elite” และ “establishment”

Macron ที่ยังค่อนข้างอายุน้อย (ตอนนั้นอายุ 39 ปี) ก็ถูกมองว่าเป็นผู้มาใหม่ในแวดวงการเมือง แต่เขากลับสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเสนอนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมที่ก้าวหน้า

ผลของการเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2017 Emmanuel Macron ได้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสด้วยคะแนน 66.1% Le Pen ได้รับคะแนน 33.9%

ชัยชนะของ Macron ถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจ เนื่องจากเขาเป็นผู้มาใหม่และสามารถเอาชนะ Le Pen ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคขวาจัดที่มีอิทธิพลในฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีประชาชนจำนวนมากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูป

Emmanuel Macron: ชีวิตของผู้ปกครองฝรั่งเศส

Emmanuel Macron เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 1977 ในเมือง Amiens ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี

หลังจากเรียนจบโรงเรียนมัธยม Macron ได้เข้าศึกษาต่อที่ École Nationale d’Administration (ENA) ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำสำหรับการผลิตข้าราชการชั้นสูงของฝรั่งเศส

Macron เริ่มต้นอาชีพด้วยการทำงานเป็น banker ที่ Rothschild & Cie Banque และต่อมาได้ดำรงตำแNCRong>o รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังภายใต้ประธานาธิบดี François Hollande

ในปี 2016 Macron ได้ก่อตั้งพรรค En Marche! (On the Move!) ซึ่งเป็นพรรคนิยมกลาง

Macron ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปี 2017 และดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่นั้น

นโยบายและความสำเร็จของ Macron

หลังจากขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดี Emmanuel Macron ได้ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมอย่างกว้างขวาง รวมถึง:

Macron ยังได้มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ Macron ยังเป็นผู้สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและการขยายสมาชิก

ความท้าทายที่ Macron เผชิญ

Emmanuel Macron แม้จะประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่ง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย เช่น:

• การเคลื่อนไหวของกลุ่ม “Yellow Vest”: กลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจของ Macron และเรียกร้องให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
• การแพร่ระบาดของ COVID-19: โรคระบาดทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก ฝรั่งเศสก็ต้องเผชิญกับผลกระทบเช่นกัน

Macron ต้องใช้ความสามารถในการบริหารประเทศอย่างชาญฉลาดเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้