การปฏิวัติของฮาอิลé สลัสซี่ และความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในเอธิโอเปีย

blog 2024-12-11 0Browse 0
 การปฏิวัติของฮาอิลé สลัสซี่ และความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในเอธิโอเปีย

หากกล่าวถึงประวัติศาสตร์เอธิโอเปีย ย่อมไม่พ้นการพูดถึงฮาอิลé สลัสซี่ (Hailé Selassie) จักรพรรดิองค์สุดท้ายของประเทศ ซึ่งขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ถึง พ.ศ. 2518 และนำเอธิโอเปียผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลายประการ

ฮาอิลé สลัสซี่ เป็นที่รู้จักในนาม “ลียงแห่งแอฟริกา” (Lion of Judah) เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นผู้นำประเทศให้ก้าวสู่ยุคสมัยใหม่ โดยดำเนินการปฏิรูปทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง เช่น การยกเลิก chế độทาส การสร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อย่างเช่นถนน โรงไฟฟ้า และโรงพยาบาล

แต่ชีวิตของฮาอิลé สลัสซี่ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดเวลา พระองค์ทรงเผชิญกับความท้าทายและวิกฤตการณ์มากมาย ทั้งจากภายในประเทศและภายนอก

การปฏิวัติของฮาอิลé สลัสซี่ (Hailé Selassie Revolution) และการล่มสลายของระบอบจักรวรรดิ

ในปี พ.ศ. 2518 การปฏิวัติได้ระเบิดขึ้นทั่วเอธิโอเปีย นำโดยกลุ่มทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะคณะกรรมการประชาชน” (Derg) เหตุผลหลักที่ทำให้เกิดการปฏิวัตินั้นมาจากความไม่พอใจต่อการปกครองของฮาอิลé สลัสซี่

แนวคิด
การทุจริตและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความอดอยากและการขาดแคลนอาหาร
ข้อเรียกร้องจากประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในระบบการเมืองอย่างเท่าเทียม

ฮาอิลé สลัสซี่ ถูกจับกุมและถูกจำคุกตลอดชีพ พระองค์สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2531 การปฏิวัติครั้งนี้ได้ยุติระบอบจักรวรรดิที่ยาวนานกว่าศตวรรษ

มรดกของฮาอิลé สลัสซี่: การเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้ง

หลังจากการปฏิวัติ ระบอบคอมมิวนิสต์ได้เข้ามาปกครองเอธิโอเปีย และนำไปสู่ช่วงเวลายุ่งยากอย่างรุนแรง

ฮาอิลé สลัสซี่ถูกจำในฐานะผู้นำที่พยายามทำให้เอธิโอเปียทันสมัย แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้นำที่เข้มงวดและไม่มีความเอาใจใส่ต่อประชาชน

มรดกของฮาอิลé สลัสซี่ยังคงเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนเอธิโอเปีย

บางคนยกย่องพระองค์ว่าเป็นผู้ให้กำเนิดประเทศสมัยใหม่ แต่บางคนก็วิจารณ์ว่าพระองค์เป็นผู้นำเผด็จการที่ทำให้ความไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น

TAGS